คำนาม คือ คำอิสระที่ไม่สามารถผันได้ เป็นคำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของต่างๆ สามารถนำไปเป็นประธานของประโยคได้ แบ่งออกเป็น
- คำสามัญนาม ( 普通名詞 : futsu doushi ) เป็นคำใช้เรียกคนสัตว์สิ่งของทั่วไป เช่น
山 (yama : ภูเขา)
川 (kawa : แม่น้ำ)
人 (hito : คน)
鳥 (tori : นก) - คำวิสามัญนาม ( 固有名詞 : koyuu meishi ) เป็นคำที่เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น
富士山 (fujisan : ภูเขาฟูจิ)
東京タワー (tokyou tawaa : หอโตกียว) - ตัวเลข จำนวน ( 数詞 : suushi ・ 数量詞 : suuryoushi ) เพื่อบอกจำนวน ปริมาณ หรือลำดับ เช่น
一年 (ichinen : หนึ่งปี)
二つ (futatsu : สองชิ้น)
三位 (san-i : ที่สาม)
いくつ (ikutsu : เท่าไร) - เวลา นามเวลา (時詞 : tokishi ・時名詞 : tokimeishi) เป็นคำนามแสดงเวลา ซึ่งถือเป็นคำขยายคำแสดง (renyou shuushokugo) คือสามารถใช้กับคำแสดงได้โดยไม่ต้องมีคำช่วย เช่น
今 (ima : ขณะนี้)
春 (haru : ฤดูใบไม้ร่วง)
さっき (sakki : เมื่อสักครู่) - คำนามที่มีแต่รูปฟอร์ม (形式名詞 : keishiki meishi) เป็นคำที่แทบจะไม่มีความหมายในตัวเอง เป็นเพียงการเหลือไว้ตามไวยากรณ์เพื่อใช้คู่กับคำช่วยขยายคำนามเท่านั้น เช่น
こと (koto) ため (tame) もの (mono)
ほど (hodo) ころ (koro)
คำเหล่านี้เดิมจะเขียนด้วยคันจิ แต่ปัจจุบันโดยทั่วไปจะเขียนด้วยฮิรางานะ ยกตัวอย่างเช่น
手紙を書く こと が苦手です (tegami o kaku koto ga nigate desu : เขียนจดหมายไม่เก่ง) - คำนามที่แปลงรูปมา ( 転成名詞 : tensei meishi) เป็นคำนามที่แปลงมาจากคำกริยาหรือคำคุณศัพท์ เช่น
考え (kangae : ความคิด)
近く (chakaku : ที่ใกล้ๆ)
白 (shiro : สีขาว)
คำนามตัวเลขและจำนวน แตกต่างจากคำนามประเภทอื่น คือสามารถจัดเป็นคำขยายคำแสดง (連用修飾語 : renyou shuushokugo) คือสามารถใช้กับคำแสดงได้โดยไม่ต้องมีคำช่วย เช่น
漢字を 3つ 書きます (kanji o mitsu kakimasu : เขียน คันจิ 3 ตัว)
ที่มา : http://www.j-campus.com/grammar/?chapter=2
แล้วพบกันใหม่บทความหน้า สำหรับท่านใดสนใจที่จะพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของตัวเอง UBON Academy ของเรามีคอร์สภาษายินดีคอยให้บริการทุกท่านนะคะ
หมายเลขโทรศัพท์ : 081-399-2240
Email : [email protected]